เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า มีนักปีนเขา 137 คน พร้อมกับไกด์ 32 คนติดอยู่บนยอดเขาคินาบาลูบนเกาะบอร์เนียว ในรัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งส่วนหนึ่งในจำนวนนี้ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ใกล้กับบริเวณภูเขาลูกดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียสั่งให้นักปีนเขากลับลงมาอย่างช้าๆ และด้วยความระมัดระวัง เพราะเกรงว่าอาจเกิดอันตรายจากก้อนหินหล่นและดินถล่มลงมาจากการสั่นไหวของพื้นดิน และได้ส่งทีมกู้ภัยจำนวน 85 คนขึ้นไปให้ความช่วยเหลือแล้ว ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ รายงานว่า จากกรณีนักท่องเที่ยวติดบนยอดเขาคินาบาลู หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวนั้น ในจำนวนนี้ อาจมีคนไทย 4 คนอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบยืนยันกับฝ่ายมาเลเซีย ทั้งนี้ สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) ระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น วัดความลึกจากพื้นดินได้ 10 กิโลเมตร ศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างไปทางทิศตะวันออกของเมืองโกตากินะบะลูในรัฐซาบาห์ราว 54 กิโลเมตร อย่างไรก็ดี ยังไม่มีคำประกาศเตือนภัยสึนามิ หรือพบความเสียหายรุนแรง แต่แรงสั่นสะเทิอนของแผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้หินที่เป็นหูข้างหนึ่งของ”ยอดเขาหูลา”ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวโด่งดังขึ้นชื่อของภูเขาลูกนี้หักไป ดะโต๊ะ มาซิดี มานจุน รัฐมนตรีท่องเที่ยว วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของรัฐซาบาห์เปิดเผยว่า นักปีนเขาที่ติดอยู่บนยอดเขาซึ่งในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย ต้องไต่เขากลับลงมาอย่างช้าๆ เนื่องจากเส้นทางปีนเขาหลักเสียหาย และยังมีอันตรายจากหินที่ตกลงมาด้วย และไม่สามารถส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปช่วยได้เนื่องจากทัศนวิสัยไม่ค่อยดี ด้านหนังสือพิมพ์นิวสเตรทส์ไทม์สของมาเลเซียรายงานอ้างคำเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทางการมาเลเซียระบุว่า มีนักปีนเขา 4 รายที่ได้รับบาดเจ็บ บางรายกระดูกหัก ขณะบางคนมีบาดแผลที่บริเวณศรีษะจากการถูกหินตกลงมาใส่ นายโคลิน ฟอร์ไซธ์ ที่อาศัยอยู่ในเมืองโกตากินะบะลูเปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้สั่นสะเทือนอยู่ราว 15 วินาที และรู้สึกเหมือนกับมีรถบรรทุกชนเข้ากับกำแพง โดยรายงานข่าวแจ้งว่าชาวเมืองต่างแตกตื่นวิ่งออกจากอาคารมาอยู่บนถนน ซึ่งรวมถึงสนามบินนานาชาติโกตากินะบาลูด้วย มีการโพสต์ภาพความเสียหายทั้งกระจกหน้าต่างแตก ถนนพัง กำแพงร้าวบนเว็บไซต์เครือข่ายสังคม ทั้งนี้ แผ่นดินไหวรุนแรงนับว่าเกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนักในมาเลเซียที่ตั้งอยู่วงนอกห่างจากวงแหวนไฟแปซิฟิก ภูเขาคินาบาลูถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่าคาดาซาน ดูซุน เนื่องจากเชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตย์ของดวงวิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกกลุ่มหนึ่งราว 10 คนทั้งชายและหญิงขึ้นไปถ่ายภาพเปลือยบนยอดเขาดังกล่าวและโพสต์ลงบนอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้ใช้เว็บเครือข่ายสังคมของมาเลเซียส่วนหนึ่งแสดงความเห็นว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้อาจเป็นเพราะวิญญาณที่สิงสถิตย์อยู่โกรธเคืองต่อการกระทำดังกล่าว ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 20.37 น. นายมานจุน ทวีตข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวระบุว่า นักปีนเขาทั้ง 137 คน พร้อมกับไกด์ 32 คนเดินทางลงมาถึงฐานปานาร์ ลาบันบริเวณเชิงเขาแล้ว
Author: geonoise
Categories
ยอดตายระเบิดไนจีเรียพุ่ง35ศพ
ยอดตายระเบิดไนจีเรียพุ่ง35ศพ
“ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิด2จุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรียพุ่งขึ้นเป็น35ศพ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีโดยกลุ่มโบโกฮารามเพิ่มขึ้นเป็น92ศพ หลังประธานาธิบดีคนใหม่รับตำแหน่งได้เพียง1สัปดาห์“ยอดตายระเบิดไนจีเรียพุ่ง35ศพ | เดลินิวส์
“สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอาบูจา ประเทศไนจีเรีย เมื่อวันที่5มิ.ย.ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเมืองโยลา เมืองเอกของรัฐอดามาวา เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดโจมตีตลาดสดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย31ศพ บาดเจ็บอีก38ราย เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในเมืองไมดูกูรี เมืองเอกของรัฐบอร์โนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย4ศพ โดยคนร้ายได้นำระเบิดซุกซ่อนไว้รถบรรทุกก่อนขับพุ่งชนจุดตรวจด้านนอกค่ายทหาร เหตุโจมตี2จุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีขึ้นหลังนายมูฮัมมาดู บูฮารี ประธานาธิบดีคนใหม่ของไนจีเรียเสร็จสินภารกิจเดินทางเยือนประเทศเพื่อนบ้านหลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยประธานาธิบดีบูฮารี ได้เดินทางเยือนชาด และไนเจอร์ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของไนจีเรียและแคเมอรูนในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮาราม ที่คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว15,000คนตั้งแต่ปี2552เป็นต้นมา
ทั้งนี้ประธานาธิบดีบูฮารีประกาศที่จะบดขยี้กลุ่มหัวรุนแรงให้จงได้ ระหว่างทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไนจีเรียเมื่อ1สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังเกิดเหตุระเบิดโจมตีขึ้นตามมาตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในช่วง1สัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นเป็น92ศพ ขณะที่ในเมืองโยลา เหตุระเบิดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี แม้จะยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮาราม ที่มักก่อเหตุระเบิดโจมตีตลาดสดที่มีประชาชนพลุกพล่าน“ ที่มา : เดลินิวส์
มาเลย์เร่งช่วยนักไต่เขา160คนหลังเกิดดินไหว
ทางการมาเลย์เร่งช่วยนักไต่เขาราว 160 ราย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงวันนี้
สำนักข่าวบีบีซีรายงาน นายมาซิดี มานจัน รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของมาเลเซีย กล่าวว่า ทางการกำลังเร่งช่วยเหลือ นักไต่เขาในมาเลเซียราว 160 คน บนเทือกเขาคินนาบาลู เกาะบอร์โน่ รัฐซาบาร์ของมาเลเซีย หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง แรงสั่นสะเทือน 6.0 ตามมาตราวัดริกเตอร์ วันนี้ โดยกล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เส้นทางการเข้าถึงพื้นที่ถูกปิดกั้นด้วยสภาพอากาศ ไม่อาจสามารถนำเฮลิคอปเตอร์เข้าไปได้ พร้อมระบุเพิ่มเติมว่า มีนักไต่เขาบางรายได้รับบาดเจ็บจากหินที่ร่วงลงขณะเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ มีคำสั่งระงับกิจกรรมการไต่เขาทั้งหมดด้วย
ที่มา : ข่าวสนุก
จากรายงานของเอเอฟพี ญี่ปุ่นเตรียมติดตั้งส้วม รวมถึงน้ำดื่มในกรณีฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่ต้องติดอยู่ในลิฟท์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งพบได้บ่อยครั้่งในญี่ปุ่น
ทั้งนี้จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นหลังประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในลิฟท์นานนับชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหวด้วยความรุนแรงระดับ7.8 แมกนิจูดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ลิฟท์หลายตัวหยุดทำงาน
จากรายงานของเอเอฟพี ญี่ปุ่นเตรียมติดตั้งส้วม รวมถึงน้ำดื่มในกรณีฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่ต้องติดอยู่ในลิฟท์ ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวซึ่งพบได้บ่อยครั้่งในญี่ปุ่น
ทั้งนี้จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้นหลังประชาชนจำนวนมากติดอยู่ในลิฟท์นานนับชั่วโมงหลังเกิดแผ่นดินไหวด้วยความรุนแรงระดับ7.8 แมกนิจูดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ลิฟท์หลายตัวหยุดทำงาน
โดยลิฟท์ส่วนใหญ่จะหยุดทำงานอัตโนมัติ โดยจะหยุดในชั้นที่ใกล้ที่สุดพร้อมเปิดประตูออก แต่ในเหตุเมื่อวันเสาร์มีลิฟท์ 14 ตัวที่จอดข้างระหว่างชั้น
หลังเกิดเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่รัฐจึงได้ร่วมประชุมกับบรรดาผู้ผลิตลิฟท์และเห็นร่วมกันที่จะต้องจัดหาส้วมสำหรับกรณีฉุกเฉินไว้ในลิฟท์ พนังงานของสมาคมผู้ผลิตลิฟท์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพี
สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีจุดศูนย์กลางอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของกรุงโตเกียวห่างออกไปเป็นระยะทางราว 900 กิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ทั้งประเทศ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย รวมถึงสตรีวัย 56 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บถึงขนาดซี่โครงหัก แต่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต
ที่มา : จากมติชนออนไลน์
Categories
แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด6.0ที่มาเลเซีย
แผ่นดินไหวรุนแรงขนาด6.0ที่มาเลเซีย
เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.0 ในรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียว ของมาเลเซีย เบื้องต้นยังไม่เกิดความเสียหาย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ว่าสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.0 เมื่อเวลา 07.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของมาเลเซีย ( 06.15 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดินราว 10 กิโลเมตร ห่างจากเมืองราเนา ในรัฐซาบาห์ ทางตอนเหนือของเกาะบอร์เนียว ขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนืออีกราว 19 กิโลเมตรอย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการเกิดความเสียหายในเบื้องต้น
ทั้งนี้ รายงานของยูเอสจีเอสระบุเพิ่มเติมด้วยว่า มาเลเซียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่นอกแนวแผนเปลือกโลก “วงแหวนแห่งไฟ” ที่เรียงตัวต่อกันเป็นแนวคล้ายเกือกม้า อย่างไรก็ตาม แผ่นดินไหวครั้งสั่นสะเทือนทั่วแผ่นแปซิฟิก จึงสามารถรับรู้ได้ทั้งในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/650300
New noise barriers for Mumbai in Sion, Matunga and Parel
The MMRDA is erecting noise barriers on three flyovers along the Dr Babasaheb Ambedkar road at the cost of nearly Rs 19 crore; pilot project in BKC had already proved successful in 2010
Residents living along the busy Dr Babasaheb Ambedkar road and patients in Sion Hospital are set to get some much-needed respite from the incessant honking and engine noise that have been making their lives miserable.
The MMRDA has begun installing noise barriers on the Sion Hospital, King’s Circle- Tulpule Chowk and Hindmata flyovers at a cost of Rs 18.9 crore.
Speaking to mid-day, MMRDA Joint Project Director Dilip Kawatkar said, “The installation of noise barriers on flyovers on the arterial Dr Babasaheb Ambedkar road will help bring down the vehicular noise levels and benefit the residents living in buildings close to the road.
The installation work has already begun on the flyover opposite Sion Hospital and it is expected to be completed on all three flyovers in six months.”
Successful pilot
In 2011, a team of experts from MMRDA, including then MMRDA Commissioner Rahul Asthana had gone for a tour to Italy, where it studied the noise barrier projects. MMRDA later said it would be installing noise barriers on all the flyovers and road over bridges that it constructs in the future.
Before the officials left on the trip, the authority had already begun a pilot project in BKC in 2010. Before the noise barriers were installed along the road near Kalanagar in BKC, the decibel level was between 60 and 90, which has come down to 50-55 during the day and well below 45 in the night.
Mumbai: MMRDA to erect noise barriers in Sion, Matunga and Parel – See more at:Source
The Land Transport Department is to impose tighter noise control on big bikes or big motorcycles with the noise level not exceeding 95 decibels.
Land transport deputy director-general Mr Wattana Pattharachon said he had already discussed with producers and importers of big bikes about the problem of their loud noise that the department has wanted to control.
He said that from now on manufacturers of big bikes would have their prototype motorbikes sent to the department for examination before production licences were to be granted.
As for the importers, imported big bikes will be examined to determine whether they meet the noise standard set by the department before they can be put on sale, he added.
Mr Wattana said he had informed the manufacturers and importers of big bikes to warn their distributors or dealers not to sell or install substandard exhaust pipes failing that the department might revoke the certificates of the models of the bikes In question.
Noise traffic from roads, rails, aircrafts can make you fat from your belly, suggests a new study.
Exposure to a combination of such noise may pose the greatest risk of acquiring a spare tyre, otherwise known as central obesity, and thought to be one of the most harmful types of fat deposition around the body.
The researchers assessed how much road traffic, rail, and aircraft noise 5075 people living in five suburban and rural areas around Stockholm, Sweden, had been exposed to since 1999.
The analysis indicated no link between road traffic noise and body mass index (BMI). But there was an association between road traffic noise and waist size, with a 0.21 cm increase for every additional 5 dB increase in exposure, although this was only significant among women.
Similarly, there was a link to waist:hip ratio, with a change of 0.16 for every 5 dB increase in noise exposure to road traffic; this association was stronger in men. larger waist was significantly associated with exposure to any of the three sources of noise, but the link was strongest for aircraft noise; a larger waist:hip ratio was associated with road traffic and aircraft noise only.
The more sources of noise pollution a person was exposed to at the same time, the greater their risk of central obesity seemed to be. Age was an influential factor, with associations between central obesity and road traffic noise only found for those below the age of 60.
Since the study was observational, no definitive conclusions could be drawn about cause and effect.
However, they suggests that noise exposure may be an important physiological stressor and bump up the production of the hormone cortisol, high levels of which are thought to have a role in fat deposition around the middle of the body.
The study is published online in Occupational and Environmental Medicine.
Source: http://timesofindia.indiatimes.com/
BEIJING: The introduction of a helicopter tourism service in Shanghai has resulted in a sharp resistance from the local people, who complain about noise pollution and the risks of the copters flying very low over the city’s skyline.
Within five days of its introduction on May 1, the helicopter service has already been forced to alter one of the routes over the Pudong area of the city. This follows a strong protest from a local school, Jincai High School, which said students were finding it difficult to concentrate due to the high noise.
“It was so loud that the pupils couldn’t hear what their teachers were saying,” Shanghai Daily quoted the school principal, Zhao Guodi, as saying. A teacher, surnamed Li, said: “On Monday, I had to stop three times during a single class because the noise was so loud.”
One of the school’s teachers actually lodged a complaint with the police.
Two companies, Yiyang and Kingwing, are jointly providing helicopter tours to visitors over the site, which was used for World Expo in 2010, the Huangpu River and the site of the Disney Resort, which is under construction. Tour lasts six to 25 minutes, and costs between 4,000 yuan ($640) and 12,000 yuan ($1920) each.
Yiyang said it has sought permission of the air traffic control to fly the copters at 300 feet height instead of the present height of 200 feet to reduce noise levels, and respond to complaints from Shanghai citizens.
“The sightseeing tours are new to the city, so we apologize for failing to take these details into account,” Ren Yibing, general manager of Yiyang Cultural Co, told the paper.
If the revised route continues to cause upset, it will be adjusted further, he said. Besides, the 12-seat helicopter used at present will be replaced by a smaller, and quieter, four-seater, for flying over highly populated areas, he said.
“My 22-month-old granddaughter runs into my arms and covers her ears with her little hands every time she hears the helicopter,” a 60-year-old woman surnamed Mao told the paper. “It’s not just the noise, you can also feel the pressure in your ears, like when a plane takes off,” she said.
An official from the neighborhood committee at Taolin area of Shanghai said he has received numerous complaints about the noise from the aircraft.
On May 5, the National Green Tribunal will meet government officials, traffic cops and residents to discuss solutions to noise pollution in south Delhi’s Panchsheel Park located along the busy Outer Ring Road.
A petition in the green court seeks relief for 5,000-odd residents who suffer as the noise levels in their neighbourhood touch 65-75 decibels (db), while the safe limit for day and night is 55 and 45 db, respectively.
They have already scored a partial victory when earlier the Tribunal directed the traffic police to declare Panchsheel Park as a no-horn zone, limit the speed of vehicles passing the area to 30 km/hr and fine the violators. Residents have been asked to grow green hedges to ward off the noise from the road. But they want a concrete sound barrier around the neighbourhood.
If these measures are effectively enforced, Panchsheel Park will be one of the few residential areas in Delhi to get some kind of sound-proofing.
Studies indicate that noise disturbance in Delhi is an environmental problem, as severe as air pollution, but few take note. We absorb the din without realising that it causes stress and messes up with our sleep. The World Health Organisation says that prolonged exposure to noise above 80 decibels can interfere with our immune systems, boost stress hormones, contribute to cardiovascular maladies and cause hearing damage.
In 2011, researchers from the Centre for Science and Environment travelled through Delhi, recording sound levels using a manual meter. They found the noise level going up to 100 db in the commercial and industrial zones, and 90 db in some residential zones during peak traffic.
At least 70% of these damaging sounds emanate from the ever-swelling fleet of eight million vehicles in a city of 17 million people. In 1910 when England’s Oliver Lucas designed the first electrical horn attached to the automobile, it was to save lives. Until then, laws in England mandated that self-propelled vehicles must be preceded by a man on foot waving a red flag and blowing a horn for the safety of pedestrians and animals.
Today, incessant honking is often blamed on India’s poor road infrastructure. But most drivers do it out of habit. On Delhi roads, weaving through traffic is a proud art that involves constant honking. At 100-110 db, blaring car horns are comparable with noise from a rock concert or a running jet engine.
Honking is banned in India at intersections or near temples, schools and hospitals. But the rule is flouted every second. With a fine as low as R100, it doesn’t matter anyway. Such is the demand for louder horns that many foreign car makers have customised stronger horns for the Indian market.
Recommendations of the pollution watchdog include ban on pressure horns, extensive plantation of trees on the roadsides, encouraging use of noise-absorbent materials, adequate noise barriers, monitoring of loudspeakers and generator. While regular sound-mapping can check the extent of noise trauma, sound barriers can bring noise levels down by 5 db.
Above all, say experts, sound trauma can be reduced just by changing our habits. The horns are necessary to warn other road users or animals of the vehicle’s approach, or as a part of an anti-theft device. In all other situations, it is possible to drive without honking.
All you need to do is stick to the speed limit. Experts prescribe the two-second rule — staying at two seconds or one car length behind the vehicle directly in front of one’s car gives just about enough time to stop or manoeuvre the vehicle if the one ahead of you suddenly applies brake. For overtaking or changing lanes, use indicators. And remember, no matter how much you honk, you can’t make traffic jams disappear.
“Calling noise a nuisance is like calling smog an inconvenience,” said Dr William H. Stewart, former Surgeon General of the United States. After much prodding, our government has woken up to the problem of air pollution. There is no reason why it should sleep through the deafening noise that ails our city.
